1.ชักชวนให้ผู้มุ่งหวังตอบรับตามลำดับ
-เราต้องรู้จักการใช้คำถามที่ผู้มุ่งหวังตอบรับอย่างต่อเนื่อง โดยหยิบยกในเรื่องราวของความจริงที่เขาไม่อาจปฏิเสธได้ มาถามผู้มุ่งหวังหรือลูกค้านั้นเองก็จะเกิดความเข้าใจเห็นด้วยและคล้อยตามได้ ซึ่งเขาไม่อาจจะปฏิเสธได้ แต่กลับเพิ่มความเชื่อมั่นในการสั่งซื้อยิ่งขึ้น ทั้งนี้เพราะการตอบและการสะสมความเชื่อมั่นของลูกค้านั่นเองเช่นคุณอาจจะถามว่า"คุณพี่ว่าจริงไหมครับ"(ตัวอย่างและแนวทางนะครับ)เพื่อเป็นการบีบให้ลูกค้าตอบว่า"จริง"ซึ่งแต่ละคำถามที่เราถามลูกค้าควรคำถามที่เป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับธุรกิจที่ลูกค้าเองก็ไม่อาจปฏิเสธได้เช่นกัน...และการตั้งคำถามเหล่านี้ส่งผลให้ลูกค้าคล้อยตามและมีโอกาศสูงที่ลูกค้าจะสมัครทำอาชีพเสริมกับเรา...
2.เสนอทางเลือกในการตัดสินใจ
-การเสนอทางเลือกในการตัดสินใจให้ลูกค้าตัดสินใจง่าย ระหว่างการนำเสนอขายข้อเสนออาจจะทำให้ผู้มั่งหวังหรือลูกค้าลังเล คือตัดสินใจไม่ถูกเพราะมีทางเลือกมากเกินไป หากนักขายจะเสนอใหม่ว่าระหว่างสินค้าสองสิ่งนั้นเขาควรเลือกอย่างใด พร้อมแนะนำว่าอย่างใดเหมาะสมกับลูกค้าจะเป็นการดีเพื่อให้ลูกค้าไม่เกิดความลังเลและเป็นการชี้แนะลูกค้าให้เล็งเห็นถึงผลประโยชน์ของตัวสินค้านั้นๆได้อย่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
3.โอกาศสุดท้าย
-เป็นเทคนิคสรุปการขาย โดยการเร่งเร้าผู่มั่งหวังให้เกิดความอยาก ความต้องการในผลประโยชน์ที่เขาจะได้รับ เมื่อเขาตัดสินใจเป็นเจ้าของหรือบริการนั้นๆเช่น ส่วนลด ของแถม หรือเกรงว่าจะเป็นการสุญเสียโอกาสในการทำกำไร ถ้าหากไม่ตัดสินใจเป็นเจ้าของธุรกิจในช่วงนี้เขาอาจจะสูญเสียโอกาศบางอย่างไปได้
เช่น "โปรโมชั่นนี้จะหมดสิ้นเดือนนี้แล้วนะครับถ้าคุณพี่ไม่รีบสมัครอาจจะเสียโอกาศดีๆในการสร้างอาชีพเสริมที่มหัศจรรย์นี้ได้นะครับ"
4.ถามคำสั่งซื้อโดยตรง
-แต่ไม่ได้หมายความว่าจะให้ถามลูกค้าว่า"ตกลงพี่จะซื้อไหมครับ"มันเป็นการไม่ให้เกียรติลูกค้าการถามคำถามสั่งซื้อตรงๆเป็นคำถามที่ง่ายๆหากสมมุติว่าเขาจะซื้อ เช่น
1.เราก็ถามสิครับว่าไม่ทราบว่าคุณลูกค้าดูแล้วน่าสนใจไหม ครับ
2.รุ่นนี้เหมาะสำหรับพี่เลยใช่ไหม ค่ะ
3.จะให้หนูมาบริการสักสิ้นเดือนดีไหม ค่ะ
5.คาดคะเนว่าจะเอา
-ก็คล้ายๆกับการถามคำถามสั่งซื้อโดยตรงนั่นเอง คือการคาดคะเนว่าจะเอาหรือรับสินค้าของเราไว้เป็นเจ้าของ เป็นการทึกทักว่าลูกค้ามีความต้องการแน่นอน การสนทนาการขายจะเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับการบริการ การอำนวยความสะดวกอื่นๆ ระยะเวลาการจ่ายเงิน ส่วนลดจากงานพิเศษ ที่คุณกำลังทำเป็นต้น
1.ผมว่าจะส่งสินค้าวันนี้เหมาะไหมครับ
2.วันอาทิตย์หน้าผมมาบริการนะครับ
3.คุณพี่กรุณาเซ็นชื่อตรงนี้ดีไหมครับ
6.ชักจูงแนะนำลูกค้า
-ระหว่างการเสนอขาย นักขายจะชี้แจงถึงผลประโยชน์ต่างๆที่ลูกค้าจะได้รับแล้ว ควรจะพูดชัดจูงลูกค้าไปในทางที่ดีเพื่อช่วยในการปิดการขายเพราะการชักจูงลูกคือคือการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้ามองสินค้าและบริการของเราในแง่ดีและมองธุรกิจที่เรากำลังทำในแง่ดีด้วย...เทคนิคการจูงใจคนนั้นถือเป็นศิลปะขั้นสูงเลยที่นักขายหลายๆคนต้องมีติดตัวเสมอเมื่ออกไปพบเจอกับลูกค้า
7.ให้ข้อเสนอ
-คือการปิดการขายในลักษณะต่างๆ ที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเช่น
1.เสนอให้ซื้อเพื่อเป็นของขวัญแต่ตัวเอง แก่ลูก หรือคนที่เขารัก
2.เสนอว่าสินค้าจะเปลี่ยนแปลงราคา และสิ้นสุดของแถมแค่สิ้นเดือนนี้ จึงอยากให้เขาตัดสินใจตอนนี้
3.เสนอสิทธิพิเศษเมื่อเขาตัดสินใจเป็นเจ้าของสินค้าเราแล้ว เช่น บริการระยะยาว การอบรมพิเศษ
4.เสนอของขวัญแก่เขา ถ้าตัดสินใจเพื่อแลกกับใบสั่งซื้อ
8.ใช้พลังเสริมจากบุลคลที่สาม
-คือการยกตัวอย่างบุคคลที่ 3 ขึ้นมาเพื่อให้เกิดความน่าเชื่อถือ ปกติถ้าเราพูดโดยใช้ตัวเราเป็นข้ออ้างอาจจะดูไม่ค่อยน่าเชื่อถือสักเท่าไหร่แต่ถ้าหากต้องการชวนผู้มุ่งหวังมาทำอาชีพเสริมให้ได้จริงๆแล้วควรมีเทคนิคในการยกตัวอย่างในการพูดเช่น
1.ดร....ได้กล่าวไว้เช่นนี้(แต่ถ้าเราพูดเองอาจจะดูไม่น่าเชื่อถือ) หรือผลวิจัยได้วิจัยออกมาแล้วว่า...
2.การออกไปหาผู่มุ่งหวังตั้งแต่ 2 คนขึ้นเช่นการที่ดาวไลน์ชื่นชมชื่นชมอัพไลน์ให้ลูกค้าเห็นหรือการ T up อัพไลน์นั่นเองเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับอัพไลน์และเป็นการเสริมพลังให้อัพไลน์เราจะช่วยให้เราสามารถปิดการขายลูกค้าได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น